จัดห้องนอนอย่างไร? ให้นอนสบายถูกสุขลักษณะ

ห้องนอน เป็นอีกหนึ่งห้องภายในบ้านที่เราใช้เวลาอยู่ในห้องนี้มากพอสมควรเลยทีเดียว อย่างน้อยๆ ก็โดยเฉพาะเวลานอนในตอนกลางคืน ซึ่งห้องนอนจึงควรเป็นห้องที่มีความสะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก และเชื้อโรค หากห้องนอนเต็มไปด้วยฝุ่นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นการจัดห้องนอนให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี แต่หลายๆ คนอาจมีคำถามว่าการจัดห้องนอนที่ดีนั้นต้องทำอย่างไร บทความนี้จะชวนทุกคนไปจัดห้องนอนให้น่านอน อีกทั้งยังถูกสุขลักษณะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในบ้านกัน

ห้องนอนต้องอยู่ในมุมที่ดีที่สุดของบ้าน

หากเปรียบเทียบห้องรับแขกเป็นหน้าตาของบ้าน ไว้รับรองเวลามีแขกมาเยี่ยมเยียน จึงต้องเน้นความเป็นระเบียบ สวยงามแล้วนั้น ห้องนอนคงเป็นเหมือนห้องพักผ่อนหย่อนใจที่ทุกคนจะใช้เวลาอยู่ในนั้นนานที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อพักผ่อนนอนหลับ ใช้เพื่อแต่งตัว หรือแม้แต่นั่งทำงานอดิเรกบางอย่าง ก็สามารถทำในห้องนอนได้ ดังนั้นต้องเลือกห้องนอนให้อยู่ในมุมที่ดีที่สุดของบ้าน ดังนี้

• อยู่ในตำแหน่งที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน
• ได้รับแสงแดดอุ่นๆ ในยามเช้า เพื่อช่วยให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น
• มีอากาศถ่ายเทที่สะดวก เพื่อที่จะได้ไม่มีกลิ่นอับ

เลือกเครื่องนอนที่ดีที่สุด ไม่กั๊ก

เครื่องนอนที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องนอนที่มีขนาดใหญ่ หรือต้องมีราคาแพงที่สุด แต่ควรเป็นเครื่องนอนที่มีขนาดกำลังดี ไม่แข็งเกินไป มีโครงสร้างที่แข็งแรง รอยต่อแน่น โดยที่นอนที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ ที่นอนที่ทำจากยางพารา และเตียงนอนที่ทำจากนุ่น เนื่องจากเป็นวัสดุจากใยธรรมชาติ ทำให้เตียงมีความอ่อนนุ่ม น่านอน อีกทั้งช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ ช่วยลดไรฝุ่นอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เป็นอย่างมาก

การวางตำแหน่งเตียงให้ถูกสุขลักษณะ

ตำแหน่งเตียงนอนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เพียงวางให้ถูกฮวงจุ้ยเท่านั้น ในการจัดห้องนอนให้น่านอนควรวางเตียงให้อยู่ในที่ที่มีแสงเข้า เพื่อช่วยทำให้ห้องได้รับแสงแดด และไม่ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศบนหัวเตียง เนื่องจากความเย็นของแอร์จะพัดผ่านศีรษะอยู่ตลอด อาจทำให้ไม่สบายได้ง่าย

จัดห้องให้ขนาดพอเหมาะ

จากคู่มือที่สถาปนิกแนะนำระบุว่า ห้องนอนขนาดมาตรฐานควรมีขนาดที่ 6.5 ตารางเมตร และเพดานควรสูงอย่างน้อย 2.1 เมตรขึ้นไป เพื่อทำให้ห้องไม่กว้าง และแคบจนเกินไป เพราะถ้าหากห้องนอนแคบเกินไป เวลาขยับตัว หรือเดินก็จะรู้สึกอึดอัด อากาศไม่ถ่ายเท หรือถ้าห้องกว้างจนเกินไปก็จะรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่ปลอดภัยอีก มาลองดูวิธีแก้ไขกันวว่าควรจัดห้องนอนอย่างไรให้ออกมามีขนาดที่พอเหมาะ น่านอน

ห้องนอนแคบเกินไปแก้ยังไง

สำหรับบ้านไหนที่ห้องนอนมีขนาดเล็ก หรือแคบจนเกินไป จะต้องมีเทคนิคในการเปลี่ยนห้องนอนเล็กๆ ให้ดูกว้างขึ้น สำหรับวิธีแรกที่จะนำมาแนะนำคือควรนำเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นออกให้ได้มากที่สุด เลือกไว้เฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเท่านั้น หรืออาจใช้วิธีลดขนาดเตียงให้เล็กลง เลือกใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อรับแสงแดดเข้ามา เพราะแสงแดดจะช่วยทำให้ห้องนอนมีความสดชื่น อากาศถ่ายเทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกใช้ม่านโปร่งแส งเพื่อช่วยพรางตา ทำให้ห้องนอนดูโล่ง และทำให้กว้างยิ่งขึ้น

ห้องนอนกว้างไปแก้ยังไง

ห้องนอนกว้างเกินไปก็เป็นปัญหาเหมือนกัน เพราะจะทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว และอ้างว้าง วิธีแก้คือให้เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ลงไป ลองจัดมุมโปรด หรือมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือไว้ในห้องนอน หรือจะเลือกใช้ฉากกั้นห้อง กั้นเป็นอีกห้องนึงขึ้นมา เพื่อทำให้ห้องมีมีขนาดที่พอเหมาะมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ห้องกว้างแต่อยู่ในระยะที่สายตามองเห็น เพียงเท่านี้ก็จะรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ใช้เฟอร์นิเจอร์ทึบ หรือทำความสะอาดง่าย

อีกหนึ่งเคล็ดลับในการจัดห้องนอนให้น่านอน คือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีทึบในห้องนอน เพราะเป็นสีที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีความซับซ้อน ออกแบบด้วยรูปทรงที่ง่าย จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีลิ้นชักหลายชั้น จะยากต่อการทำความสะอาด นอกจากนี้ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเล็ก และวางห่างจากเตียงให้ได้มากที่สุด เพื่อลดโอกาสการสูดดมฝุ่น

สร้างกลิ่นที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรต่อสุขภาพ

กลิ่นในห้องก็เป็นเรื่องสำคัญ การเลือกน้ำหอมในห้องนอนเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ห้องดูสะอาด น่าอยู่มากยิ่งขึ้น หากห้องมีกลิ่นอับ จะทำให้สภาพภายในห้องไม่น่าอยู่ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์รบกวนอยู่ตลอด แนะนำให้หาเครื่องหอมปรับอากาศ หรือสเปรย์ปรับอากาศมาสร้างบรรยากาศดีๆ ให้ห้องนอนน่าอยู่มากขึ้น ยิ่งเลือกกลิ่นที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ก็จะยิ่งช่วยให้การนอนหลับนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เลือกใช้สีที่ดีต่อสุขภาพ

สีในห้องนอน เรียกว่าเป็นตัวสร้างบรรยากาศของห้องเลยก็ว่าได้ เพราะสีช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ แนะนำให้ลองหาไอเดียเลือกวอลเปเปอร์ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ เพราะวอลเปเปอร์บางลายดูสวยงาม แต่พอติดไปแล้ว อาจจะไม่เหมาะกับห้องก็ได้ ยกตัวอย่างวอลเปเปอร์ยอดนิยมตามสไตล์แต่ละบ้าน

• สไตล์โมเดิร์น ให้เลือกวอลเปเปอร์ที่เน้นความทันสมัย มีลวดลายอิสระตามใจชอบ มักเลือกเป็นวอลเปเปอร์ที่มีสีขาว ตัดด้วยลายเส้นให้ดูโดดเด่น มีชีวิตชีวา
• สไตล์มินิมอล ให้เลือกวอลเปเปอร์สีล้วน อาจเน้นโทนสีขาว น้ำตาล ดำ หรืออาจเลือกวอลเปเปอร์สีเดียวแต่มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาแทน เช่น วอลเปเปอร์ลายหินอ่อนเสมือนจริง
• สไตล์หรูหรา ให้เลือกวอลเปเปอร์ที่เป็นลายเรขาคณิต หรือรูปทรงที่มีความสะดุดตา อาจเลือกตกแต่งดีเทลเล็กๆ ที่มีสีทองตัดขอบ จะช่วยเพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้น
• สไตล์เน้นลวดลาย ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้ ลายเส้น ลายการ์ตูน ฯลฯ ให้เลือกวอลเปเปอร์ตามความต้องการ เช่น
  • หากชอบห้องลายดอกไม้ หรือลายการ์ตูน ให้เลือกขนาดที่ต้องการก่อน การเลือกลายเล็กๆ จะทำให้ห้องดูมีพื้นที่ ดูสว่างมากขึ้น หรือเลือกลายใหญ่ก็จะทำให้ห้องดูโดดเด่นออกมา
  • หากห้องนอนค่อนข้างแคบ ให้เลือกวอลเปเปอร์ลายเส้นขวาง จะช่วยให้ห้องดูกว้างมากขึ้น

อย่าลืมความเป็นตัวของตัวเอง

ความเป็นตัวของตัวเอง ถือเป็นหัวใจหลักของการเลือกห้องนอน ให้เลือกสิ่งจำเป็นหลักๆ โดยอิงจากความชอบของตนเองก่อน เช่น หากคุณต้องการมีเตียงใหญ่ ให้ลองวางแผนตกแต่งห้องนอน แล้วคิดทบทวนอีกทีว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะในห้องนอนไม่ควรจะมีเพียงเตียงนอน 1 เตียงเท่านั้น ควรมีการจัดมุมที่ตนเองถนัด หรือมีงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ ของตนเองไว้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากชอบอ่านหนังสือ ในห้องนอนควรมีโต๊ะเล็กๆ สำหรับนั่งอ่านหนังสือ พร้อมชั้นวางของเพื่อช่วยให้ห้องนอนมีระเบียบ น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการจัดห้องนอนที่มีความเป็นตัวเอง ยังช่วยให้เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่แท้จริงอีกด้วย

ห้องนอนเป็นห้องส่วนตัวที่ใช้สำหรับการพักผ่อน เป็นห้องที่อยู่แล้วช่วยให้รู้สึกปลอดภัย นอกจากการจัดห้องให้มีความสวยงามแล้ว ยังควรมีการจัดห้องนอนให้ถูกสุขลักษณะด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ต้องใช้เวลาในการหาข้อมูล คำแนะนำต่างๆ ซึ่งทาง AP Thai ได้รวมวิธีจัดห้องนอนให้น่านอนไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งการวางเตียง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ จนไปถึงการเลือกสีวอลเปเปอร์ห้องนอน เพื่อให้ทุกคนได้ลองจัดห้องนอนให้น่านอนแล้วยังถูกสุขลักษณะอีกด้วย